เซ็นทรัลพัฒนา จับมือ ONNEX By SCG ประกาศความสำเร็จ “เซ็นทรัล นครสวรรค์” ขึ้นแท่นศูนย์การค้าแห่งแรกคว้ามาตรฐาน “TREES” ระดับ Gold ยืนหนึ่งผู้นำองค์กร NET Zero 2050

  • ตอกย้ำความสำเร็จของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างเซ็นทรัลพัฒนาและ ONNEX By SCG ในการยกระดับมาตรฐานอาคารเขียวของประเทศ
  • เปิด 6 แนวทางบริหารจัดการอาคารอย่างยั่งยืน ส่ง “เซ็นทรัล นครสวรรค์” เป็นต้นแบบศูนย์การค้าสีเขียวแห่งแรกของไทย

กรุงเทพฯบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all เชื่อมโยงทุกธุรกิจทั้ง Retail-Residence-Hotel-Office ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เดินหน้าตามเป้าหมายองค์กร NET Zero 2050 ล่าสุดประกาศความสำเร็จ โครงการ “เซ็นทรัล นครสวรรค์” ได้รับรองมาตรฐานอาคารเขียว TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) ระดับ Gold จากสถาบันอาคารเขียวไทย ยกระดับสู่ต้นแบบศูนย์การค้ายั่งยืนแห่งแรกของไทย ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตร ONNEX By SCG (ออนเนกซ์ บายเอสซีจี) สะท้อนถึงการดำเนินงานขององค์กรที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร พร้อมทั้งเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดคาร์บอนและการพัฒนาเมืองที่น่าอยู่ในระยะยาว ทั้งนี้ มาตรฐาน TREES เป็นมาตรฐานอาคารเขียวระดับประเทศที่ประเมินตั้งแต่การประหยัดพลังงาน การจัดการน้ำ คุณภาพอากาศภายในอาคาร การเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน ไปจนถึงระบบสัญจรที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินการบัญชี และกลุ่มธุรกิจโรงแรมและสำนักงาน บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ในโอกาสที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน TREES ระดับ Gold ในฐานะต้นแบบศูนย์การค้ายั่งยืนโครงการแรก ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรอย่าง ONNEX By SCG ที่ช่วยให้การออกแบบอาคารและระบบต่างๆ มีมาตรฐานชัดเจนตั้งแต่ต้น โดยการพัฒนาอาคารเขียว ถือเป็นหัวใจสำคัญของโมเดลธุรกิจ Retail-Led Mixed-Use Development เพราะช่วยยกระดับองค์กร สร้างมูลค่า ลดต้นทุนในระยะยาว และสอดคล้องกับ Roadmap สู่ Net Zero 2050 ของเรา โดยโครงการนี้ได้รับการออกแบบให้ประหยัดพลังงาน ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้วัสดุคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Material) และให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศในอาคาร”

“อีกทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ เซ็นทรัล จันทบุรี ยังได้รับมาตรฐาน TREES ระดับ Gold เป็นแห่งที่สอง และเรามีแผนขยายสู่โครงการอื่นๆ ต่อเนื่องในอนาคต การได้รับ TREES จึงสะท้อนถึงการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนที่สามารถต่อยอดสู่โครงการอื่นในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนามุ่งมั่นในการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม พร้อมสร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุนผ่านเครื่องมืออย่าง Green Bond เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจควบคู่กับการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”

ด้าน นายดุสิต ชัยรัตน์ Head of Smart Solution Business จาก ONNEX By SCG กล่าวว่า “การยกระดับมาตรฐานอาคารเขียวต้องอาศัยทั้งความมุ่งมั่นของเจ้าของโครงการและความเชี่ยวชาญของทีมที่ปรึกษา สำหรับ ONNEX By SCG เราให้ความสำคัญกับการร่วมขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero 2050 ของเซ็นทรัลพัฒนา โดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตระยะยาวของผู้ใช้อาคาร ซึ่งเป็นหัวใจของมาตรฐานอาคารเขียวที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบโครงการ เซ็นทรัล นครสวรรค์ ความสำเร็จของโครงการนี้สะท้อนพลังของความร่วมมือระหว่างทีมงานเซ็นทรัลพัฒนาและทีมงาน ONNEX By SCG ในการนำมาตรฐานระดับสากลมาต่อยอดสู่ความยั่งยืนของสังคม และเพื่อเตรียมพร้อมรับความท้าทายที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นในอนาคต”

เซ็นทรัลพัฒนา เผย 6 แนวทาง บริหารศูนย์การค้า ‘เซ็นทรัล นครสวรรค์’ คว้ามาตรฐาน TREES ระดับ Gold มีไฮไลท์ในการออกแบบและก่อสร้างที่สำคัญตามมาตรฐานอาคารเขียว ดังนี้

  1. พื้นที่สีเขียว (Green area) ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่เดิมในพื้นที่ จึงมีการวางแผนเคลื่อนย้ายอย่างเป็นระบบก่อนนำกลับมาปลูกคืน เพื่อรักษาพรรณไม้พื้นถิ่นที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศ ทำให้ต้นไม้พื้นถิ่นในโครงการแข็งแรงและดูแลรักษาง่ายในระยะยาว
  2. พลังงาน (Energy) โครงการใช้พลังงานทดแทนคิดเป็น 27% ของค่าใช้จ่ายไฟฟ้าทั้งหมด เมื่อเทียบกับกฎหมายอาคารอนุรักษ์พลังงาน จากการติดตั้งระบบ Solar Cell ทั้ง Solar Roof และ Solar Carport รวมถึงการเลือกใช้กระจกประสิทธิภาพสูงและหลอดไฟประหยัดพลังงาน (LED) ในอาคาร
  3. วัสดุก่อสร้าง (Construction) เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น วัสดุที่ได้รับฉลากเขียวหรือฉลากคาร์บอน พร้อมทั้งสามารถรีไซเคิลวัสดุได้มากกว่า 30% ของมูลค่าวัสดุก่อสร้างทั้งหมด รวมถึงมีมาตรการควบคุมฝุ่นละอองระหว่างก่อสร้างเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ
  4. การจัดการของเสีย (Waste Management) มีการวางแผนการจัดการขยะตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ครอบคลุมขยะคอนกรีตหัวเสาเข็ม เศษเหล็ก เศษปูน และเศษไม้ ทำให้เศษวัสดุก่อสร้างสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่า 75% ของน้ำหนักวัสดุ
  5. การใช้น้ำ (Water Efficiency) ให้ความสำคัญกับการใช้น้ำอย่างคุ้มค่า โดยเลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำที่ผ่านมาตรฐาน TREES ช่วยลดการใช้น้ำตั้งแต่ต้นทางของอาคาร
  6. สภาพแวดล้อมภายในอาคาร (Indoor Environment) ให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศภายในอาคาร ผ่านการเติมอากาศบริสุทธิ์ตามมาตรฐาน และการเลือกใช้วัสดุประเภทกาว ยาแนว สี และสารเคลือบผิวที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้ทำงานและผู้ใช้บริการ

เซ็นทรัลพัฒนา เดินหน้าแผน NET Zero 2050 สร้าง Sustainable Business Ecosystem ภายใต้กลยุทธ์ Retail-Led Mixed Use Development ขับเคลื่อนทุกธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกัน พร้อมได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น การติดอันดับ Dow Jones Best-in-Class Indices ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 เป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมทางการเงินเพื่อความยั่งยืนอย่าง Green Bond และ Sustainability-Linked Bond รวมถึงก่อตั้ง Central Pattana Green Growth เพื่อขับเคลื่อนการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังได้รับรางวัล Prime Minister Awards: Innovation for Sustainability จาก NIA ในฐานะผู้พัฒนาศูนย์การค้าแนวคิด ‘ศูนย์กลางการใช้ชีวิตและชุมชน’ ผสานกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ติดตามความเคลื่อนไหวเซ็นทรัลพัฒนา คลิก https://www.centralpattana.co.th/th/shopping/shopping-update/lifestyle-activities #CentralPattana #Imaginingbetterfuturesforall #เซ็นทรัลพัฒนา